ปัจจัยสำคัญ นำจีนขึ้นแท่นผู้นำ เกมส์ e-commerce 2021

ภายในปี 2021 นี้ จีนจะเป็นประเทศแรกของโลกที่มียอดขายจาก e-commerce มากกว่าการค้าปลีกแบบดั้งเดิม โดยยอดขายจาก e-comerce สูงถึง 52.1% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด ด้วยยอดขาย 2.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งเรียกได้ว่าเติบโตรวดเร็วมาก เพราะย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สัดส่วนของEcommerceในการค้าปลีกทั้งหมดของอเมริกาและจีนใกล้เคียงกันคือ 4.9% และ 5.0% ตามลำดับ (โดยปัจจุบันสัดส่วนของยอดขายจาก e-commerce ในอเมริกา มีเพียง 15% เท่านั้น)
สาเหตุหลักๆที่ทำให้สัดส่วน e-commerce ในจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การระบาดของ COVID-19 ยังประกอบด้วยปัจจัยอื่นๆได้แก่

1) การก่อตั้ง Alibaba ซึ่งเป็น Platform ของ e-commerce อย่างครบวงจร ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้อย่างแพร่หลาย หลังจากนั้นก็มี JD.com ที่เป็น platform อีกทางเลือกสำหรับผู้บริโภค

2) วัฒนธรรม Digital Wallet เช่น Alipay ของ Alibaba หรือ WeChat Pay ของ Tencent ซึ่งมีระบบที่ก้าวหน้ากว่าประเทศฝั่งตะวันตกค่อนข้างมาก มีความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภค และสามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งระบบนี้สามารถใช้ชำระเงินทั้งในออนไลน์และร้านค้าปลีกออฟไลน์

3) ต้นทุนด้าน logistic ที่ต่ำ ทำให้ Alibaba และ JD.com สามารถให้บริการขนส่งแบบ One day deliver ได้ทั่วประเทศ แถมยังราคาถูกมากๆด้วย ทำให้ปัจจัยการซื้อสินค้าออนไลน์ยิ่งสูงขึ้นตามไปอีก

4)การแพร่หลายของ smartphones  ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่าน smartphonesมากขึ้น ปัจจุบันคนจีนซื้อสินค้าผ่าน smartphones สูงถึง 83% ของยอดขายสินค้าผ่านทาง e-commerce ทั้งหมด

นอกจากนี้คาดว่าสิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อน e-commerce ในจีนให้เติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต ได้แก่

ภาพจาก: walkthechat.com
  1. การค้าขายผ่าน Social Commerce

ในขณะที่อเมริกาเพิ่งจะตื่นตัวกับกระแส social commerce ฝั่งจีนนั้นทุ่มเม็ดเงินมหาศาลไปกับสื่อโฆษณาออนไลน์กันมาพักใหญ่แล้ว ทำให้ในปี 2020 Social commerce ในจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 44% และจะเติบโตขึ้นอีกราว 35% ในปี 2021 คิดเป็นมูลค่า 363 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ Social commerce ในอเมริกา ที่ยังคงทิ้งห่าง คาดการณ์เติบโตเพียง 36 พันล้านดอลลาร์ โดยประมาณในปีนี้

ภาพจาก: liangtong.com.au

2. ฟีเจอร์ WeChat Mini Program:

ฟีเจอร์ WeChat Mini Program คือฟีเจอร์ขนาดเล็กภายใต้ Super App จาก Tencent อย่าง “WeChat” เป็นฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกให้กับ e-commerce ของ third-party ต่าง ๆ ดำเนินการได้บนแพลตฟอร์ม อีกทั้งสามารถใช้ประโยชน์จาก Data ของ WeChatได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การดำเนินการด้านจองตั๋วเดินทาง สั่งอาหาร หรือซื้อขายคูปอง โดยหลังจากที่ WeChat ปล่อยฟีเจอร์ Mini Program นี้เพียงไม่นาน ตัวฟีเจอร์ก็กลายเป็นที่นิยมอย่างสูง ทั้งในหมู่ผู้ค้าและผู้บริโภค จนถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระแส Social commerce ในจีนอย่างแท้จริง จากรายงานของสื่อต่าง ๆ พบว่าในปี 2021 ตัวฟีเจอร์ Mini Program นี้ มียอดการซื้อขายผ่านระบบ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้นับเป็นมูลค่าที่เติบโตของ Social commerce ในจีนนั่นเอง

ภาพจาก: https://diane.substack.com/

3.ซื้อขายแบบ Group buying

ปรากฎการณขายแบบ Group buying หรือการขายส่งในลักษณะของการรวมออเดอร์ลูกค้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีอัตราส่วนแบ่งในตลาด e-commerce ราว 13% ภายในปี 2021 นี้ โดยมี "Pin duo duo" เป็นแพลตฟอร์มผู้นำในด้านการปลดล็อคตลาด Group buying ร่วมกับ e-commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแพลตฟอร์มชั้นนำรายอื่นทั้งในแง่ของการซื้อ และ ขาย จนขึ้นแท่นบริษัท e-commerce รายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในชั่วข้ามคืน

ภาพจาก: ecommercenewsforyou.com

4. "Livestreaming" Commerce ที่มาพร้อมความสนุกสนาน

นาทีนี้ยักษ์ใหญ่ในสนามอย่าง Taobao และ  JD.com ต่างก็ต้องลงสนาม Live commerce เพื่อสู้กับคู่แข่งใหม่ที่กำลังมาแรงจากฝั่งบันเทิงอย่าง Douyin (TikTok เวอร์ชั่นจีน) และ Kuaishou โดยเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงนี้ คงไม่ต้องเล่ามาก เพราะทางฝั่งไทยเอง ก็ทำได้สนุนสนานไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นกิจกรรม Social ที่คนไทยถนัดอยู่แล้ว

ภาพจาก: seoagencychina.com

5. การแพร่ระบาดของ COVID-19

ไม่สามารถมองข้ามได้ COVID-19 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดการซื้อของชำออนไลน์พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากการปิดตัวลงของร้านค้าต่างๆ ทำให้เทรนด์ของ Online grocery shopping และ Food delivery เติบโตขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ในส่วนของ AddVentures ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ได้มีการลงทุนในแพลตฟอร์ม Farm-to-Table ของสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซียอย่าง "Tanihub" ที่มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศเป็นอย่างมากจากวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา

นอกเหนือจากจีนแล้ว ประเทศที่มียอดสัดส่วนของ e-commerce รองลงมาเป็นอันดับสองก็คือเกาหลีใต้ (29%) ซึ่งมี Player อย่าง "Coupang" ที่เรียกได้ว่าเป็น Amazon ของเกาหลีใต้ คาดว่าจะ IPO เร็วๆนี้ หากท่านใดสนใจเรื่อง eCommercer โปรดตามได้ Content ของในเว็ปไซต์และ Facebook AddVentures ได้ เพื่อที่จะไม่พลาดเทรนด์เทคโนโลยีด้าน Commerce ของทั้งในเอเชียและ Global  

อ้างอิงจาก : https://www.emarketer.com/content/global-historic-first-ecommerce-china-will-account-more-than-50-of-retail-sales?fbclid=IwAR0gcG7k7bWgRJ--UXXlru4eLRQAtoxC0PqyhtbF26wMOGl7fq16awbvX3c

เรียบเรียงโดย : Pitchaya Judphon, Investment Manager